4
4. อุปกรณ์ในการควบคุมอุณหภูมิ : ใน
ขณะที่เครื่องกำลังทำงาน (ปุ่มสวิทช์เปิด
การทำงาน เปิดอยู่) โดยไม่มีน้ำในช่อง
บรรจุน้ำหรือหลังจากชงกาแฟเรียบร้อย
ซึ่งน้ำในช่องบรรจุน้ำจะหมดไป อุณหภูมิ
ในส่วนทำความร้อนจะเพิ่มสูงขึ้น อุปกรณ์
ในการควบคุมอุณหภูมิจะทำหน้าที่ตัดไฟ
เทอร์โมฟิวส์เพื่อควบคุมความร้อนเกิน :
เครื่องชงกาแฟนี้มีระบบป้องกันความร้อน-
เกิน 2 ขั้นตอนในกรณีที่อุปกรณ์ควบคุม
อุณหภูมิทำงานผิดปกติเทอร์โมฟิวส์จะทำ
หน้าที่ตัดไฟโดยอัตโนมัติเมื่อความร้อน
เกินและให้ถอดปลั๊กออกจากเต้ารับทันที
การทำความสะอาดและดูแลรักษา
พิเศษตามคำแนะนำต่อไปนี้อย่างน้อยเดือน
ละครั้งขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานและ
คุณภาพของน้ำที่ใช้กับเครื่องหากน้ำที่ใช้
ในบ้านเป็นน้ำกระด้างควรเพิ่มความถี่ใน
การทำความสะอาดเป็นทุกๆ 2 สัปดาห์
เนื่องจากแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำอาจทำให้กาแฟ
เสียรสชาติและจะทำให้การต้มใช้เวลา
นานขึ้น
วิธีการทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟ
1. ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำธรรมดา
3 ส่วนในภาชนะ แล้วใส่ส่วนผสมที่ผสม
แล้วลงในช่องบรรจุน้ำ
2. ผลักท่อส่งน้ำออกจากบริเวณช่อง
รองรับไส้กรองแล้วใส่ไส้กรองลงในช่อง
รับไส้กรอง แล้วหมุนท่อส่งน้ำให้กลับมา
อยู่ในตำแหน่งเดิม วางแก้วกาแฟ (ที่มากับ
เครื่อง) เข้าในเครื่องบนแท่นรองแก้ว แล้ว
กดเปิดเครื่อง ในขณะที่กำลังทำความ-
สะอาดจะมีไอน้ำออกมาจากเครื่องมากกว่า
การใช้งานต้มกาแฟตามปกติ
3. ปล่อยให้เครื่องทำงานไปเรื่อยๆจนกว่า
น้ำไหลลงในแก้วกาแฟจนหมด จากนั้น
กดปุ่มปิดการทำงาน เมื่อของเหลว
ไหลผ่านช่องรับไส้กรองลงสู่แก้วกาแฟ
จนหมดแล้ว นำแก้วออกมาจากเครื่อง
แล้วรอให้น้ำเย็นลง ประมาณ 10 นาที เมื่อ
น้ำเย็นลงแล้ว เทน้ำเดิมกลับลงไปที่ช่อง
บรรจุน้ำ
ก่อนการทำความสะอาดควรแน่ใจว่าเครื่อง
อยู่ในตำแหน่งปิดและถอดปลั๊กแล้วและควร
ปล่อยให้เครื่องเย็นลง ก่อนการทำความ
สะอาดทุกครั้ง ในการใช้งานประจำแต่ละ
วันควรล้างไส้กรองและแก้วเซรามิคด้วย
น้ำร้อนหรือน้ำยาล้างจานและเช็ดขจัด
คราบเปื้อนภายนอกตัวเครื่องด้วยผ้าหมาดๆ
สำหรับคราบที่ติดแน่นทำความสะอาดยาก
ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาทำความสะอาดที่
ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช็ดทำความสะอาด
ไม่ควรใช้ใยขัดที่เป็นโลหะขัดถูตัวเครื่อง
การขจัดตะกอนตะกรัน
ควรทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟแบบ